Wednesday, August 19, 2015

ชาเย็น จากแว่นแคว้นแดนดินไทยสู่โลกหล้าสากล (Thai Iced Tea)



สวัสดีค่ะ เหล่าบรรดาเพื่อน ๆ ผู้ที่รักทำและทานอาหารทั้งหลาย

วันนี้ รินมีเมนูที่คนไทยเราได้ประดิษฐ์คิดแต่งเอามาฝากค่ะ ชาเย็น หรือ ชาไทย หรือ ที่ต่างชาติรู้จักกันว่า ไทยไอซ์ดที (Thai iced tea) เป็นเมนูที่ปัจจุบันนี้ มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นชื่อลือชาไปทั่วโลกหล้าสากลแล้วค่ะ ถ้าเพื่อน ๆ อยู่ในเมืองไทย ก็คงอาจจะไม่รู้ว่า ชาเย็น นี้ มีชื่อเสียงมากน้อยแค่ไหน แต่ว่าเพื่อน ๆ ที่อยู่เมืองนอกนั้น ก็คงจะรู้เป็นอย่างดีค่ะ ว่าชาเย็นนั้น เป็นเครื่องดื่มของไทยที่โด่งดังมากมายหลายหลวงจริง ๆ เลยค่ะ ตอนนี้ ในประเทศเขตเมืองของอเมริกาที่รินอยู่เอง ก็สามารถหาซื้อชาไทยได้ตามเหล่าบรรดาร้านค้าต่าง ๆ ค่ะ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นร้านที่คนไทยไปเปิดก็มีขายค่ะ ขนาดร้านฝรั่ง Coffee Beans & Tea Leaves ยังมีชาเย็นของไทยขายเลยค่ะ 

แต่อย่างใดก็ดี ยังมีอยู่บางหนบางแห่งในโลก ที่ยังมีผู้คนที่ไม่รู้จักชาเย็นของไทยเราอยู่ค่ะ ในบางประเทศเขตเมือง ก็เพิ่งจะเริ่มมีคนได้ทำความรู้จักมักคุ้นเป็นครั้งแรกค่ะ เรามาช่วยกันทำให้ชาเย็นไปไกลกว่านี้ดีมั้ยคะ มาร่วมแรงร่วมใจพาเพื่อนต่างชาติที่ยังไม่รู้จักชาเย็นนั้น ไปทานชาเย็นของไทยกันเถอะค่ะ

ถ้าเพื่อนคนไหนอยากทำชาเย็นเอง รินก็ขอเชิญชวนให้เพื่อน ๆ มาดูส่วนผสมกันเลยค่ะ

ส่วนผสม

ได้ประมาณ 2 แก้วค่ะ
  1. ใบชา___5 ช้อนโต๊ะ
  2. น้ำร้อน___2 1/2 ถ้วยตวง
  3. น้ำตาลทราย___1/2 ถ้วยตวง
  4. นมข้นหวาน___3 ถ้วยตวง
  5. นมข้นจืด (หรือ half & half)___ไว้โรยหน้า
  6. น้ำแข็ง


ส่วนวิธีทำ กรุณาดูที่คลิปที่แปะไว้ข้างล่างค่ะ




รินหวังว่าเพื่อน ๆ คงจะชอบนะคะ ลองทำทานกันดูนะคะ แล้วได้ผลยังไง ก็ส่งข่าวสารและรูปภาพสวย ๆ งาม ๆ มาให้ดูกันนะคะ ส่งมาที่ระบบใดก็ได้ค่ะ 
แล้วอย่าลืมใส่ hashtag #Rinscookbook ด้วยนะคะ
ถ้าต้องการสูตรอาหารเพิ่มเติม ก็สามารถเข้าชมเข้าดูวีดีโอวิธีการทำได้ ใน Youtube จากช่อง Rins Cookbook ค่ะ แล้วไว้พบเจอกันใหม่ในครั้งหน้าค่ะ 

ทานให้อร่อย ๆ นะคะ 
วันนี้ รินขอลาไปก่อนค่ะ สวัสดีค่ะ

Tuesday, August 18, 2015

ขนมไข่นกกระทา Thai Fried Sweet Potato Balls



สวัสดีค่ะ เหล่าบรรดาเพื่อน ๆ ผู้ที่รักทำและทานอาหารทั้งหลาย

วันนี้ รินมีเมนูทานเล่นแสนอร่อยมาฝากค่ะ
แต่ก่อน เวลารินไปเที่ยวเมืองไทย รินชอบไปซื้อขนมไข่นกกระทาทานเล่นกับเพื่อน ๆ ค่ะ เป็นอะไรที่ชอบมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยแล้วค่ะ มีอยู่ร้านหนึ่งที่รินชอบเป็นพิเศษค่ะ เค้าขายดิบขายดีมาก และรินก็ชอบไปอุดหนุนเค้าเป็นประจำเลยค่ะ คือรินชอบซื้อขนมไข่นกกระทาของเค้าบ่อยมาก ๆ จนกระทั่งตอนหลังครอบครัวของรินและครอบครัวเค้าก็ได้กลายเป็นเพื่อนสนิทมิตรสหายกันค่ะ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทำให้รินได้มีโอกาสเรียนรู้เทคนิคดี ๆ ต่าง ๆ นานา ในการทำขนมไข่นกกระทาทานเองที่บ้านค่ะ 

ตอนรินกลับคืนมาสู่แว่นแคว้นแดนดินอเมริกัน ก็ชอบทำให้เพื่อน ๆ ชาวอเมริกันได้ทานกันค่ะ คนหลายคนที่นี่ชอบทานมันเทศกันมาก แต่ยังมีอยู่อีกหลายคนที่ยังไม่เคยได้ลิ้มลองขนมไข่นกกระทาของไทยเราค่ะ มีอยู่ครั้งหนึ่ง รินทำให้เพื่อนชาวอเมริกันทาน เธอก็ติดใจขึ้นมาทันที ตอนนั้นเนี่ย เธอก็ยังไม่อยากจะเชื่อเลยด้วยซ้ำว่า ขนมไข่นกกระทานั้นทำมาจากมันเทศจริง ๆ ค่ะ ปัจจุบันนี้เธอทำรับประทานเองเป็นแล้วค่ะ แล้วก็ชอบทำให้คนอื่นทานด้วย รินก็รู้สึกดีใจค่ะ ที่ได้เผยแพร่ความรู้ให้แก่ชาวต่างชาติ รินชอบมากค่ะ ที่อาหารไทยได้ไปไกลทั่วโลกหล้าสากลค่ะ


มาดูส่วนผสมกันเลยนะคะ ทุก ๆ คน

ส่วนผสม


1. มันเทศ___1 ปอนด์
2. แป้งมันสำปะหลัง___2 1/4 ถ้วยตวง (225 กรัม)
3. แป้งสาลีอเนกประสงค์ ___1/3 ถ้วยตวง (30 กรัม)
4. ผงฟู___1 ช้อนชา
5. น้ำตาลทราย___4 ช้อนโต๊ะ
6. เกลือ___1/2 ช้อนชา
7. น้ำมันสำหรับทอด


ส่วนวิธีทำ กรุณาดูที่คลิปที่แปะไว้ข้างล่างค่ะ





รินหวังว่าเพื่อน ๆ คงจะชอบนะคะ ลองทำทานกันดูนะคะ แล้วได้ผลยังไง ก็ส่งข่าวสารและรูปภาพสวย ๆ งาม ๆ มาให้ดูกันนะคะ ส่งมาที่ระบบใดก็ได้ค่ะ 
แล้วอย่าลืมใส่ hashtag #Rinscookbook ด้วยนะคะ
ถ้าต้องการสูตรอาหารเพิ่มเติม ก็สามารถเข้าชมเข้าดูวีดีโอวิธีการทำได้ ใน Youtube จากช่อง Rins Cookbook ค่ะ แล้วไว้พบเจอกันใหม่ในครั้งหน้าค่ะ 

ทานให้อร่อย ๆ นะคะ 
วันนี้ รินขอลาไปก่อนค่ะ สวัสดีค่ะ

Monday, August 17, 2015

ไอศกรีมมะม่วง (mango ice cream) หอมอร่อยเย็น ๆ มาแล้วจ้า

สวัสดีค่ะ เหล่าบรรดาเพื่อน ๆ ผู้ที่รักทำและทานอาหารทั้งหลาย

วันนี้ รินมีเมนูดับความร้อนอันหอมหวลยวนใจมาฝากค่ะ 
ไอศกรีมมะม่วง หรือ แมงโก้ไอศกรีม นั้น เป็นของหวานที่คนรอบกายรินชื่นชอบมาก ๆ เลยค่ะ เวลาว่างรินจึงชอบทำไอศกรีมมะม่วงให้พวกเค้าทานอยู่เรื่อยเลยค่ะ

เวลาหน้ามะม่วงมาเยือนที คุณน้าของริน ผู้ที่ปลูกต้นมะม่วงไว้ข้างหลังบ้านเป็นจำนวนมากมายหลายหลวง ก็มักเอามาฝากรินค่ะ

เราสามารถทำไอศกรีมมะม่วงทานได้ตลอดทั้งปีค่ะ เราไม่จำเป็นต้องเฝ้ารอคอยถึงหน้ามะม่วงหรอกค่ะ เพราะว่าเราสามารถหาซื้อมะม่วงบดแบบชนิดที่อยู่ในกระป๋องได้ค่ะ ซึ่งมักขายกันในร้านค้าอินเดียต่าง ๆ รินชอบใช้แบบ kesar (เกซาร์ หรือ เกสร) ค่ะ เป็นพันธุ์มะม่วงที่ได้รับการคัดเลือกมาอย่างดีจากแว่นแคว้นแดนดินอินเดียค่ะ


มาดูส่วนผสมกันเลยนะคะ ทุก ๆ คน

ส่วนผสม


1. เนื้อมะม่วงสุกบดบี้เหลว ๆ แล้ว (mango pulp puree)___2 ถ้วยตวง
2. นมข้นหวาน___1 ถ้วยตวง
3. เฮฝวีครีม (heavy cream) แบบเย็นจัด ___1 ถ้วยตวง
4. นอกนั้นจะเพิ่มเติมอย่างอื่นที่เพื่อน ๆ ชอบทานกับไอศกรีมค่ะ เช่น ถั่วชนิดต่าง ๆ มะม่วงสุก ผลหมากรากไม้อื่น หรือไม่ก็ ข้าวเหนียวที่ใช้ใน ข้าวเหนียวมะม่วงก็ยังได้เลยค่ะ


ส่วนวิธีทำ กรุณาดูที่คลิปที่แปะไว้ข้างล่างค่ะ



รินหวังว่าเพื่อน ๆ คงจะชอบนะคะ ลองทำทานกันดูนะคะ แล้วได้ผลยังไง ก็ส่งข่าวสารและรูปภาพสวย ๆ งาม ๆ มาให้ดูกันนะคะ ส่งมาที่ระบบใดก็ได้ค่ะ 
แล้วอย่าลืมใส่ hashtag #Rinscookbook ด้วยนะคะ
ถ้าต้องการสูตรอาหารเพิ่มเติม ก็สามารถเข้าชมเข้าดูวีดีโอวิธีการทำได้ ใน Youtube จากช่อง Rins Cookbook ค่ะ แล้วไว้พบเจอกันใหม่ในครั้งหน้าค่ะ 

ทานให้อร่อย ๆ นะคะ 
วันนี้ รินขอลาไปก่อนค่ะ สวัสดีค่ะ


ไข่ตุ๋นญี่ปุ่นสุดแสนง่าย Chawanmushi (Steamed Egg)









สวัสดีค่ะ เหล่าบรรดาเพื่อน ๆ ผู้ที่รักทำและทานอาหารทั้งหลาย

วันนี้ รินมีเมนูที่เคยทำไปนานมากแล้วมาฝากให้เพื่อน ๆ อีกครั้งอีกคราค่ะ พอดีคุณแม่ของรินอยากทานไข่ตุ๋นญี่ปุ่นมาก ทำให้นึกถึงรินตอนยังเป็นเด็กน้อย ๆ อยู่เลยค่ะ ซึ่งแต่ก่อนไม่ว่ารินร้องอยากกินอะไร คุณแม่ก็ต้องทำให้เสมอค่ะ ไอ้เราเองก็อยากหุงหาอาหารให้แม่บ้าง เริ่มตั้งแต่อายุ 7 - 8 ขวบแล้วมั้งคะ เห็นแม่เข้าห้องครัวทีไร ก็อยากจะให้ท่านไปนั่งพักผ่อนแล้วให้เราเข้าไปทำอาหารแทน แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนั้นก็ยังเด็กยังเล็กอยู่ จับมีดก็ยังไม่เป็น เอื้อมหยิบของในครัวก็ยังไม่ถึง จึงช่วยเหลืออะไรท่านไม่ได้ค่ะ

วันนี้คุณแม่อยากทานไข่ตุ๋นญี่ปุ่น รินก็จะตอบแทนบุญคุณท่านค่ะ สำหรับรินแล้ว ไม่มีสิ่งใดอื่นแล้วที่จะทำให้รินรู้สึกแสนสนุกสุขเกษมเท่ากับการที่รินได้ทำอะไรให้คุณพ่อคุณแม่ของตัวเองค่ะ


มาดูส่วนผสมกันเลยนะคะ ทุก ๆ คน

ส่วนผสม


ตัวไข่ญี่ปุ่น:
1. ไข่ไก่___1 ฟอง
2. น้ำเปล่า___3/4 ถ้วยตวง
3. ซีอิ๊วขาว___1/2 ช้อนชา
4. เกลือ___เล็กน้อย
5. ผงซุปญี่ปุ่น (bonito soup stock)___1/2 ช้อนชา
6. น้ำเปล่า (เพื่อละลายผงซุป bonito)___เล็กน้อย

ส่วนประกอบอื่น ๆ:
อัตราส่วนตรงนี้ ไม่ต้องเคร่งเครียดมากค่ะ เพื่อน ๆ ใส่อะไรได้ตามใจชอบเลยค่ะ อย่างเช่น เนื้อสัตว์ ต่าง ๆ เป็นต้นค่ะ

7. เนื้อปลาหั่นไม่หนาไม่บางมาก___ตามใจชอบ
8. กุ้งปอกเปลือกแล้ว___ตามใจชอบ
9. ซี้อิ้วขาว (สำหรับหมักปลากับกุ้ง)___เล็กน้อย เอาแค่พอประมาณทาเนื้อปลากับกุ้งบาง ๆ ค่ะ
10. เนื้อปู___ตามใจชอบ
11. สาหร่ายแห้ง wakame___1 ช้อนชา
12. น้ำเย็น (เพื่อแช่สาหร่ายแห้ง)___1/2 ถ้วยตวง
13. ลูกชิ้นปลาญี่ปุ่น (kamaboko)___4 แผ่นสไลซ์
14. เห็ดหอม___ตามใจชอบ
15. ใบผักชี___พอตกแต่งหน้า


ส่วนวิธีทำ กรุณาดูที่คลิปที่แปะไว้ข้างล่างค่ะ








รินหวังว่าเพื่อน ๆ คงจะชอบนะคะ ลองทำทานกันดูนะคะ แล้วได้ผลยังไง ก็ส่งข่าวสารและรูปภาพสวย ๆ งาม ๆ มาให้ดูกันนะคะ ส่งมาที่ระบบใดก็ได้ค่ะ 
แล้วอย่าลืมใส่ hashtag #Rinscookbook ด้วยนะคะ
ถ้าต้องการสูตรอาหารเพิ่มเติม ก็สามารถเข้าชมเข้าดูวีดีโอวิธีการทำได้ ใน Youtube จากช่อง Rins Cookbook ค่ะ แล้วไว้พบเจอกันใหม่ในครั้งหน้าค่ะ 

ทานให้อร่อย ๆ นะคะ 
วันนี้ รินขอลาไปก่อนค่ะ สวัสดีค่ะ

Saturday, August 15, 2015

ชานมบอนไซ เยือกเย็นฉ่ำดับไฟร้อน Potted Plant Milk Tea (盆栽奶茶)






สวัสดีค่ะ เหล่าบรรดาเพื่อน ๆ ผู้ที่รักทำและทานอาหารทั้งหลายทั้งมวล

ตอนนี้ อากาศร้อนมาก ๆ เลยค่ะ  ที่แอลเอก็ร้อนมากเหมือนกัน (ใครว่าเมืองนอกร้อนไม่ได้) ช่างเป็นอากาศที่ทำให้คนเราหงุดหงิดมากมายหลายหลวงเลยค่ะ


วันนี้ รินมีเมนูเครื่องดื่มเย็น ๆ อร่อย ๆ แสนฮิตแสนนิยมมาฝากเพื่อน ๆ ค่ะ เพื่อน ๆ บางคน คงอาจจะเคยได้มีโอกาสลิ้มลอง ชานม (หรือ หน่ายฉา 奶茶) ที่มาจากแว่นแคว้นแดนดินไต้หวันมาแล้ว ใช่มั้ยคะ แต่คงยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่เคยได้ลิ้มลอง ชานมบอนไซ เลยค่ะ รินเอง เพียงแค่ได้ยินชื่อก็รู้สึกร่มเย็นแล้ว แต่พอได้ดื่มเข้าไป นับตั้งแต่เอามือจับแก้วก็รู้สึกเย็นสดชื่นขึ้นมาทันทีทันใดเลยค่ะ ไม่ได้เวอร์นะคะ เมนูนี้สามารถดับร้อนได้จริง ๆ ค่ะ และนอกจากนี้ ยังช่วยทำให้เรารู้สึกกระปี้กระเปร่าได้อีกด้วย เป็นเพราะน้ำชานั้นเองค่ะ ซึ่งนักวิชาการหลายคนจากทั่วทุกมุกโลกก็ยืนยันว่ามีประโยชน์มากกว่ากาแฟค่ะ

 

แรกเริ่มเดิมทีนั้น รินก็ไม่รู้จักเมนูนี้หรอกค่ะ น้องชายของรินผู้เป็นคนที่รินสนิทชิดใกล้มาก เป็นคนทำให้รินได้รู้จักและติดใจชานมบอนไซค่ะ  วันหนึ่งน้องชายของรินได้พารินกับคุณแม่ไปร้านขายชานมของชาวไต้หวันในเมืองแอลเอ (ซึ่งมีร้านแบบนี้เยอะแยะมากค่ะ โดยเฉพาะในเขตเมืองซานเกรเบรียล ซึ่งเป็นเมืองย่อยของแอลเออีกที) 

พอเค้าเอามาเสิร์ฟปุ๊บ แม่ก็งง
"อ้าว ทำไมมีผงดำ ๆ อะไรอยู่ข้างบนด้วยล่ะ" แม่ถาม
"เป็นยาจีนครับแม่" น้องชายของรินพูดเล่นพลางหัวเราะชอบใจ
"นี่ อย่าไปหลอกเล่นแม่อย่างนั้นสิ เดี๋ยวแม่ก็คิดว่าเป็นเรื่องจริงหรอก" รินบอกน้องและพูดต่อ "เมนูเค้าเขียนว่าเป็นโอรีโอ้น่ะแม่"
"แม่ลองกินดูสิ" น้องบอกและส่งแก้วที่คนเสิร์ฟวางไว้กลางโต๊ะให้
และแม่ก็คน ๆ ชานมบอนไซ แล้วก็ลองดูดกินดู พอแม่เริ่มดื่มแล้ว พวกเราเหล่าลูกทั้งสองต่างก็ดื่มแก้วของตัวเอง
"อร่อยจริง ๆ แถมน่ารักอีกด้วย แม่ว่าพวกเค้าเนี่ย ช่างประดิษฐ์คิดแต่งจริง ๆ เลยเนาะ เป็นไอเดียที่ดีมาก" แม่ตอบแล้วพูดต่อ "อย่าลืมซื้ออีกแก้วหนึ่งกลับไปฝากพ่อที่บ้านด้วยล่ะ"
ตั้งแต่วันนั้น พวกเราก็ชอบเมนูนี้ตลอดมา รินเลยอยากให้เพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ที่มาจากประเทศเขตเมืองของไทยได้ลิ้มลองกันบ้างค่ะ พอได้ทำและลองชิมแล้วก็อย่าลืมส่งข่าวสารมาหากันนะคะ ว่าคิดเห็นยังไงกับเมนูนี้


มาดูส่วนผสมกันเลยนะคะ ทุก ๆ คน

ส่วนผสม


ส่วนของชานมเย็น:

1. ถุงชาดำ___2 ถุง (หรือใส่ 3 ถ้าชอบแรง ๆ)
2. น้ำเดือด___10 ออนซ์
3. น้ำตาลทรายแดง___2-3 ชต (หรือแล้วแต่ความชอบ)
4. ครีมเทียม___2 ชต
5. น้ำแข็ง___~5 ออนซ์ในที่เขย่า
6. น้ำแข็ง___~2.5 ออนซ์ต่อแก้วดื่ม

ส่วนบน:

1. วิปครีม___พอประมาณ
2. โอริโอ้___4-5 ชิ้น
3. เกลือสมุทร (ไม่ใส่ก็ได้)___1/8 ชช
4. ยอดสะระแหน่___1 ยอดต่อแก้ว

ส่วนวิธีทำ กรุณาดูที่คลิปที่แปะไว้ข้างล่างค่ะ





รินหวังว่าเพื่อน ๆ คงจะชอบนะคะ ลองทำทานกันดูนะคะ แล้วได้ผลยังไง ก็ส่งข่าวสารและรูปภาพสวย ๆ งาม ๆ มาให้ดูกันนะคะ ส่งมาที่ระบบใดก็ได้ค่ะ 
แล้วอย่าลืมใส่ hashtag #Rinscookbook ด้วยนะคะ
ถ้าต้องการสูตรอาหารเพิ่มเติม ก็สามารถเข้าชมเข้าดูวีดีโอวิธีการทำได้ ใน Youtube จากช่อง Rins Cookbook ค่ะ แล้วไว้พบเจอกันใหม่ในครั้งหน้าค่ะ 

ทานให้อร่อย ๆ นะคะ 
วันนี้ รินขอลาไปก่อนค่ะ สวัสดีค่ะ


ข้าวเหนียวมะม่วงสูตรหอมหวานจ้า Thai Mango Sticky Rice





สวัสดีค่ะ เหล่าบรรดาเพื่อน ๆ ผู้ที่รักทำและทานอาหารทั้งหลาย
วันนี้ รินมีเมนูที่เคยได้ทำไปนานมาแล้วมาฝากอีกทีค่ะ ของอร่อยเป็นพิเศษอย่างนี้ ไม่ว่าจะทำทานกี่ครั้ง ก็จะไม่มีวันที่จะเบื่อหน่ายค่ะ แล้วก็ไม่ว่าจะแชร์กี่ครั้งกี่คราว ยังไงคนก็ยังจะชอบและจะอยากทานค่ะ

"ข้าวเหนียวมะม่วง" นี้ เป็นของหวานไทยเมนูหนึ่งที่โด่งดังขึ้นชื่อลือชาไปทั่วโลกมากจริง ๆ เลยค่ะ บรรดาผู้คนจากแว่นแคว้นแดนดินจากประเทศเขตขัณฑ์ต่าง ๆ นานา พอได้มีโอกาสลิ้มลองข้าวเหนียวมะม่วงของไทยแล้ว ก็พากันชื่นชมชื่นชอบกันหมดค่ะ แต่จะไม่ให้เค้าชอบได้ไงล่ะคะ การผสมผสานระหว่าง มะม่วงสุก ข้าวเหนียว และ กะทิ เนี่ย เป็นอะไรที่เพอร์เฟคท์สุด ๆ ค่ะ ยิ่งเพิ่มใบเตยสด ๆ นะคะ ยิ่งทำให้หอมฟุ้งจรุงใจมากยิ่งขึ้นเลยค่ะเพื่อน ๆ 

รินเองก็มีอยู่วันหนึ่ง ทำข้าวเหนียวมะม่วงให้เพื่อนชาวต่างชาติคนหนึ่ง ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีไม่ค่อยสนิทเท่าไรค่ะ ชีก็ไม่กล้าลองเพราะไม่เคยทานผลหมากรากไม้กับข้าวเหนียวมาก่อน รินก็เลยบอกเค้า (เป็นภาษาอังกฤษ) ว่า

"นี่ยู ไม่ต้องวอร์รี่ไปหรอกนะ มันไม่ใช่ข้าวเหนียวเปล่า ๆ มันมีกะทิหอม ๆ ด้วย"
และชีก็ลองชิมดู 
ระหว่างขบเคี้ยวอยู่ รินพูดต่อว่า "ไอรับรองว่าอร่อยแน่" 

จากนั้นมาชีก็ชอบทานข้าวเหนียวมะม่วง และรินกับเค้าก็ยังเป็นเพื่อนสนิทมิตรสหายกันจนถึงทุกวันนี้ค่ะ

มาดูส่วนผสมกันเลยนะคะ ทุก ๆ คน


ส่วนผสม

  1. มะม่วงสุก___ปริมาณตามชอบค่ะ

สำหรับเจ้าตัวข้าวเหนียว


  1. ข้าวเหนียวนึ่งแล้ว*___1 ปอนด์
  2. กะทิ___1 3/4 ถ้วยตวง
  3. น้ำตาลทราย___ 1 1/4 ถ้วยตวง
  4. เกลือ___1 1/2 ช้อนชา
  5. ใบเตย___5-6 ใบ


สำหรับเจ้าตัวกะทิข้นหอม


  1. กะทิ___1/2 ถ้วยตวง
  2. น้ำตาลทราย___1 ช้อนโต๊ะ
  3. เกลือ___1 หยิบ
  4. แป้งข้าวโพด___1 ช้อนชา

*รินมีคลิปสาธิตวิธีการนึ่งข้าวเหนียวค่ะ จะแปะไว้ข้างล่างคลิปข้าวเหนียวมะม่วงค่ะ

ส่วนวิธีทำ กรุณาดูที่คลิปที่แปะไว้ข้างล่างค่ะ






วิธีนึ่งข้าวเหนียว:






รินหวังว่าเพื่อน ๆ คงจะชอบนะคะ ลองทำทานกันดูนะคะ แล้วได้ผลยังไง ก็ส่งข่าวสารและรูปภาพสวย ๆ งาม ๆ มาให้ดูกันนะคะ ส่งมาที่ระบบใดก็ได้ค่ะ 
แล้วอย่าลืมใส่ hashtag #Rinscookbook ด้วยนะคะ
ถ้าต้องการสูตรอาหารเพิ่มเติม ก็สามารถเข้าชมเข้าดูวีดีโอวิธีการทำได้ ใน Youtube จากช่อง Rins Cookbook ค่ะ แล้วไว้พบเจอกันใหม่ในครั้งหน้าค่ะ 

ทานให้อร่อย ๆ นะคะ 
วันนี้ รินขอลาไปก่อนค่ะ สวัสดีค่ะ

แกงป่าปลาขูด Jungle Curry with Fish Balls

   

 สวัสดีค่ะบรรดาเพื่อน ๆ ผู้ที่รักทำและทานอาหารทั้งหลาย
วันนี้ รินมีเมนูเผ็ด ๆ มาฝากเพื่อน ๆ ค่ะ 

แรกเริ่มเดิมทีนั้น รินไม่มีความกล้าหาญพอที่จะทานแกงป่าค่ะ เพราะกลัวว่าจะเผ็ดจนน้ำตาไหล แต่มีอยู่มาวันหนึ่ง รินได้เปลี่ยนแปลงความคิดค่ะ วันนั้น ฝนกำลังตก อากาศกำลังเย็น ๆ สบาย ๆ รินเห็นเพื่อนสนิทมิตรสหายคนหนึ่งกำลังกินแกงป่าสีส้มแดง ๆ อย่างเอร็ดอร่อยอยู่กับคุณป้าของรินค่ะ แกงป่าชามนั้นดูเผ็ดร้อนแรงมากเลยค่ะ แต่กลิ่นแกงป่านั้น หอมฟุ้งจรุงใจมาก ๆ ค่ะ (ก็ไม่อยากเชื่อว่ายังจำได้อยู่) 
"นี่ริน มาเร็ว ป้าแกอ่ะ ตักข้าวรอให้แล้วนะ" เพื่อนบอก
"เผ็ดมากเปล่าอ่ะ" รินถาม ส่วนป้าของรินนั้น พอดีมีโทรศัพท์เข้ามา แกเลยเดินย่างก้าวไปรับสาย
"เผ็ดแต่อร่อยมาาาาก ขอบอก มาเร็ว ๆ ไม่ลองไม่รู้นะ" เพื่อนโต้กลับ ปากนางนี่แดงจากแกงป่า แล้วก็หันกลับไปกินต่อและหันมาพูดต่อ "เร็วสิ เดี๋ยวหมดนะ นี่ช้อนกลางอยู่นี่"

ท่าทางการทานของเพื่อนทำให้รินอยากลิ้มลองทานบ้างค่ะ  ก็เลยตัดสินใจลองทานเป็นครั้งแรกเลยค่ะ และปรากฏว่าอร่อยจริง ๆ ด้วยค่ะ
ตั้งแต่คำแรกจนกระทั่งคำสุดท้าย รินก็ได้ลิ้มรสเครื่องแกงซึ่งมีส่วนประกอบต่าง ๆ ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวมากค่ะ ยิ่งมีกระชายกับใบกะเพราะนี่ ยิ่งทำให้รินชื่นชอบมากยิ่งขึ้นเลยค่ะ

และนับแต่นั้น มารินก็ชอบทานและทำแกงป่าเรื่อยมาค่ะ

มาดูส่วนผสมกันเลยนะคะ ทุก ๆ คน

ส่วนผสม

  1. เนื้อปลาขูด*___1 1/2 ปอนด์
  2. น้ำพริกแกงเผ็ด___4.5 ออนซ์
  3. น้ำเปล่าหรือน้ำซุป**___8 ถ้วยตวงกว่า ๆ
  4. กระชาย (ใส่ไปในตัวน้ำพริกแกง)___0.25 ออนซ์
  5. ใบมะกรูด___3 ใบ
  6. มะเขือเปราะ___8 ออนซ์
  7. มะเขือพวง___2 ถ้วยตวง
  8. ถั่วฝักยาว___6 ออนซ์
  9. ข้าวโพดอ่อน___4 ออนซ์
  10. กระชาย (ส่วนนี้ไว้ใส่ตอนทำแกงค่ะ)___0.5 ออนซ์
  11. พริกไทยอ่อน___0.5 ออนซ์
  12. ใบกะเพรา___1 ออนซ์
  13. พริกชี้ฟ้า___2 ออนซ์
  14. น้ำปลา___1/4 ถ้วยตวงหรือเพิ่มลดตามใจชอบค่ะ
  15. น้ำมันหอย___2 ช้อนโต๊ะ
  16. น้ำตาลทราย___3 ช้อนโต๊ะหรือเพิ่มลดตามใจชอบค่ะ


* จริง ๆ จะใส่เนื้อสัตว์อะไรก็ได้ค่ะ ถ้าจะใส่ปลาขูด ก็เลือกแบบสด ๆ นะคะ ถ้าสดจะอร่อยมากค่ะ
**ถ้าใส่น้ำซุป ระวังเรื่องความเค็มด้วยนะคะ บางครั้งน้ำซุปจะมีรสชาติเค็มอยู่แล้ว

ส่วนวิธีทำ กรุณาดูที่คลิปที่แปะไว้ข้างล่างค่ะ








รินหวังว่าเพื่อน ๆ คงจะชอบนะคะ ลองทำทานกันดูนะคะ แล้วได้ผลยังไง ก็ส่งข่าวสารและรูปภาพสวย ๆ งาม ๆ มาให้ดูกันนะคะ ส่งมาที่ระบบใดก็ได้ค่ะ แล้วอย่าลืมใส่ hashtag #Rinscookbook ด้วยนะคะ

ถ้าต้องการสูตรอาหารเพิ่มเติม ก็สามารถเข้าชมเข้าดูวีดีโอวิธีการทำได้ ใน Youtube จากช่อง Rins Cookbook ค่ะ แล้วไว้พบเจอกันใหม่ในครั้งหน้าค่ะ 
ทานให้อร่อย ๆ นะคะ 
วันนี้ รินขอลาไปก่อนค่ะ สวัสดีค่ะ

Friday, August 14, 2015

ขนมปังปิ้งเสียบไม้ "โทสติเคิล" (Toasticles)!

       สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ทั้งหลายผู้ที่รักทำและทานอาหาร วันนี้ รินมีเมนูแสนสุดอร่อยมาฝากอีกแล้วค่ะ เมนูนั้นก็คือ ขนมปังปิ้งเสียบไม้ หรือเรียกว่า "โทสติเคิล" ก็ได้ค่ะ 
เจ้าขนมปังปิ้งเสียบไม้นี้นะคะ เป็นอะไรที่ง่ายดายต่อการทำมากค่ะ แล้วก็เป็นอะไรที่หอมอร่อยมาก ๆ ด้วยค่ะ อาหารแบบนี้นะคะ ตัวรินจะจัดว่าเป็นอะไรที่ควรอยู่ในหมวดหมู่ "ง่ายแต่อร่อย" ค่ะ นึกภาพออกมั้ยคะ

เวลารับประทานก็ควรทานตอนที่ยังร้อน ๆ หอม ๆ นะคะ กลิ่นขนมปังปิ้งร้อน ๆ มีไอควันอ่อน ๆ ซึ่งตัดกับกลิ่นเนย เป็นอะไรที่อร่อยแบบลงตัวมากค่ะ

มาดูส่วนผสมกันเลยนะคะ ทุก ๆ คน





ส่วนผสม

ขนมปังปอนด์                              1  ปอนด์
เนยจืด                                         6  ออนซ์
น้ำตาลทราย                               4   ช้อนโต๊ะ
เกลือ                                           1/2  ช้อนชา
ผลหมากรากไม้ บรรดาถั่วต่าง ๆ หรือ และอย่าลืมอย่างอื่นที่ใช้ตกแต่งโรยหน้านะคะ เช่น นมข้นหวาน เป็นต้น 

ส่วนวิธีทำ กรุณาดูที่คลิปที่แปะไว้ข้างล่างค่ะ






รินหวังว่าเพื่อน ๆ คงจะชอบนะคะ ลองทำกันดูนะคะ แล้วได้ผลยังไง ก็ส่งข่าวสารและ รูปสวย ๆ มาให้ดูกันบ้างนะคะ ส่งมาที่ระบบใดก็ได้ค่ะ 

แล้วอย่าลืมใส่ hashtag #Rinscookbook ด้วยนะคะ

ถ้าต้องการสูตรอาหารเพิ่มเติม ก็สามารถเข้าชมเข้าดูวีดีโอวิธีการทำได้ ใน Youtube จากช่อง Rins CookBook ค่ะ แล้วไว้พบเจอกันใหม่ในครั้งหน้าค่ะ 
ทานให้อร่อย ๆ นะคะ 
วันนี้ รินขอลาไปก่อนค่ะ สวัสดีค่ะ